doomovie หนังใหม่ฟรี หนังชนโรง ดูหนังออนไลน์ หนัง2022
doomovie Turning Red เขินแรงแดงเป็นแพนด้า ดูหนังฟรี ท่ามหัวข้อสังคมที่พวกเรามองเห็นข่าวสารที่ชาวโลกตะวันตกชอบเหยียดหยามแล้วก็ดูแคลนชาวเอเชียต่างๆนานา เปลี่ยนมาเป็นแคมเปญที่ยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติอย่าง #StopAsianHate มาแล้ว ปรากฏว่าผลงานหนังแอนิเมชั่นเรื่องใหม่จาก พิกซาร์ สตูดิโอ กลับยกย่องแล้วก็ดึงเอาเสน่ห์ของความเป็นมนุษย์ทวีปเอเชียแบบใหม่ใส่เอาไว้แบบสุดต๊าชชช! ใน (เขินแรงแดงเป็นแพนด้า) หนังที่มาพร้อมทั้งพล็อตแฟนตาซีสูตรสำเร็จทั่วๆไป แต่มีวิธีการเล่าและก็พรีเซ็นท์ออกมาได้น่าคลั่งไคล้อย่างซาบซึ้งใจ
Turning Red (เขินแรงแดงเป็นแพนด้า) เกี่ยวกับเรื่องราวของ เม่ยลี่ เด็กผู้หญิงวัย 13 ปี ที่กำลังก้าวผ่านไปสู่วัยรุ่นสุดกำลัง แม้กระนั้นปรากฏว่าคุณได้จำต้องคำแช่งอันพิลึก แปลงกายเปลี่ยนเป็นหมีแพนด้าได้ ทุกหนเมื่อคุณรู้สึกตื่นเต้นและก็กระสับกระส่าย คุณก็เลยต้องหาทางแก้ไขคำแช่งที่ไม่ได้อยากได้ในคราวนี้ รวมทั้งเมื่อล่วงรู้ว่านี่เป็นคำแช่งโบราณที่เครือญาติของคุณตกทอดกันมาอย่างนาน
การ์ตูนแนวแฟนตาซีขำขันภาพงามมากมายนี่ได้ผลสำเร็จหน้าที่ดูแลหนังใหญ่เรื่องแรกของ “โดมี ชี” นักแอนิเมเตอร์มือดีจากพิกซาร์ ที่เคยเดบิวต์ได้อย่างน่าประทับใจจากหนังการ์ตูนสั้น อย่าง “Bao” เมื่อเปลี่ยนปีกลาย และก็ผลงานนั่นเองก็ยอดเยี่ยมในจุดเริ่มแรกแรงผลักดันสำหรับเพื่อการประดิษฐ์หนังยาวประเด็นนี้ออกมานั่นเอง รวมทั้งคุณก็เป็นคนที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังสำหรับการจัดแบ่งพล็อตเรื่องในหนังดังๆอย่าง “Toy Story 4” หรือ “The Good Dinosaur” ที่เป็นคุณลักษณะเด่นที่ทำให้คุณผูกเรื่องได้อย่างหนักแน่นด้วย
Turning Red (เขินแรงแดงเป็นแพนด้า) ภาพยนตร์อนิเมชั่น 3 มิติแนวแฟนตาซีขบขันและก็ผ่านผ่านวัย (Fantasy and Coming of Age) ดูแลโดย Domee Shi งานอนิเมชั่นเรื่องยาวของคุณทีแรกข้างหลังคว้าออสการ์จากอนิเมชั่นสั้น 8 นาที Bao สู่เรื่องราวของความก้าวหน้าวัยของเด็กหญิงกับความโกลาหล แล้วก็เหมือนกับ Luca ภาพยนตร์หัวข้อนี้ย้ายจากโรงลงสู่ดิสนีย์พลัส ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ในทางบวกอย่างล้นหลาม พร้อมเสียงบรรยายจาก เอ๊ะอาย แขนณิศ หรือ เอ๊ะอาย 4EVE
Turning Red เป็นหนังที่มีเค้าเรื่องสไตล์ coming of age ของกรุ๊ปเด็กหญิงที่กำลังเติบโตไปสู่วัยรุ่น พวกคุณมีหัวข้อซึ่งสามารถคุยกันได้ไม่เคยทราบเบื่อด้านในกลุ่มของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องชายหนุ่มๆที่ชอบเกิดเรื่องซุบซิบตามประสาวัยฮอร์โมนพุ่งพรวด หรือจะเกิดเรื่อง “ติ่ง” กรุ๊ปนักแสดงบอยแบนด์ ที่ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเด็กผู้หญิงในตอนวัยนี้ที่สมัยไม่ลเลนเนียม (2000s) แล้วก็หนังก็สามารถนำทุกอย่างมาแต่งออกมาได้มีอรรถรสที่พอดี
เค้าโครงเรื่องนานาประการเข้าใจง่ายเมื่อหนังมีเค้าเรื่องแล้วก็สตอปรี่ที่ออกจะแข็งแรงแล้ว ตามเสน่ห์ของหนังพิกซาร์ที่ชอบเน้นย้ำจุดสำคัญในหัวข้อนี้เป็นหลัก ก็เลยทำให้ส่วนประกอบอื่นๆก็มาเสริมความสนุกสนานให้กับหนังได้ไปตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกลักษณ์ในนักแสดงต่างๆทุกตัวในหนังหัวข้อนี้ ที่มีการวางแบบมาได้มีกลิ่นความเป็นทวีปเอเชียได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ เพราะว่าเป็นการไตร่ตรองไอเดียมาจากชาวเอเชียเป็นหลัก ก็เลยทำให้มิติผู้แสดงต่างๆทำออกมาได้เข้าถึงวัฒธรรมได้ดีมากว่า
แน่ๆว่าในเมื่อหนังเดินหมากทางนี้แล้ว ไฮไลต์หลักสำคัญความเกี่ยวข้องแล้วก็สายสัมพันธ์ครอบครัวก็ยังคงเป็นเส้นเรื่องที่ยืนหนึ่งของหนังหัวข้อนี้ และก็ Turning Red ก็จัดว่าทำออกมาได้ค่อนข้างจะถูกใจแล้วก็ใช้ได้อย่างยิ่งจริงๆ แม้ว่าจะออกไปในทางสูตรสำเร็จกับเรื่องราวมองเห็นต่างระหว่างแม่กับลูก พวกเราบางทีก็อาจจะได้กลิ่นอายความเป็น Freaky Friday เบาๆจากในหนังประเด็นนี้ แต่ว่าก็ถือว่าเป็นสูตรสำเร็จที่ยังคงเวิร์กที่จะประยุกต์ใช้ได้อยู่
Turning Red เขินแรงแดงเป็นแพนด้าเม่ย หลิน เด็กหญิงอายุสิบสามปี doo movie บุตรสาวผู้เดียวในครอบครัวชาวจีนที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบในฐานะคนดูแลศาลเจ้าจีนประจำเชื้อสาย ในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา หมิง แม่ของคุณมานะให้คุณอยู่ในกรอบ จนกระทั่งวันหนึ่งคุณตื่นมาพบว่าตนเองเปลี่ยนเป็นแพนด้าแดงในขณะที่ตื่นเต้นเต็มที่
คุณก็เลยได้ทราบว่าครอบครัวของคุณมีความลับบางสิ่งบางอย่างที่เก็บงำไว้มานับตั้งแต่บรรพกาล แต่ว่าโน่นไม่วุ่นวายพอๆกับวงดนตรีที่คุณคลั่งไคล้กำลังจะออกเดินทางมาเปิดการแสดงที่แถวบ้าน คุณจะต้องตกลงใจว่า จะเป็นบุตรสาวอย่างที่แม่คุณอยาก หรือเป็นเด็กหญิงปกติของเหล่าเพื่อนพ้องติ่งสุดกลุ่มปั๊วะปังปุริเย่ ก่อนที่จะพระจันทร์สีเลือดจะมาถึงแล้วก็คุณจะไม่สามารถที่จะคืนร่างเดิมได้อีกต่อไป
นับว่าเป็นอนิเมชั่นที่มีงานภาพผิดตามากมายสำหรับพิกซาร์ จริงๆพิกซาร์ก็เริ่มฉีกงานภาพมาตั้งแต่ Luca ที่ให้ภาพสไตล์อิตาลีแบบเรื่อยแต่งานนี้เป็นสไตล์จีนอเมริกันที่ดำเนินเรื่องไว ตรงไปด้านหน้า แม้กระนั้นมิได้รีบกระทั่งตามไม่ทัน ประสมประสานกับมุกเฮฮาที่บางครั้งอาจจะไม่ขำก๊ากอะไรมากมายแม้กระนั้นก็ทำให้เรื่องราวมองเพลิดเพลินในระยะแรกของเรื่อง
แต่ว่าตอนกึ่งกลางมันค่อนจะเรื่อยเปื่อย เนื่องจากหนังให้ข้อตกลง แต่ว่ามิได้บีบคั้นเหตุการณ์นักแสดงขนาดนั้น เลยแปลงเป็นการวางตัวละครองอื่นๆให้มีหน้าที่พร้อมกันกับตัวนำเพื่อปูไปสู่องค์ท้ายที่สุดที่ทำให้บอกได้เต็มปากว่ากล้ามาก ฉีกมากมาย ที่เคยคิดไว้ไม่ถูกหมดแล้วก็เปลี่ยนเป็นส่วนที่ทรงอำนาจที่สุดที่ผู้ใดได้มองมีต้องได้เสียน้ำตา
บางครั้งก็อาจจะมิได้หักมุมหรือฉีกแบบเวอร์วังแบบที่คาดไว้ เนื่องจากหนังมีพื้นฐานออกจะไม่แน่นหรือแปลกมากมายสักเท่าไหร่ ถึงแม้หนังเฉลี่ยพื้นที่ระหว่างพื้นฐานของเรื่องเป็นความร่วมยุคแบบปี 2002 ผสมกับวัฒนธรรมแบบจีนที่พรีเซนเทชั่นออกมาได้อย่างพอดีกับการเล่าเรื่อง แม้กระนั้นภาพรวมกลับค่อนข้างจะปกติ ไม่เคยทราบว่า ถ้าเกิดมิได้องค์ที่ 3 มาช่วย หนังบางทีอาจจะแทบจะไม่มีอะไรใหม่เลย
นักแสดงของเรื่องสำคัญๆมีความน่าดึงดูดใจมากมาย ทั้งยัง เม่ย หลิน ที่ภาพลักษณ์เป็นสาวสุดคูลในกลุ่มสหาย แต่ว่าเมื่ออยู่กับแม่ คุณก็แปลงเป็นบุตรสาวตามกฎกติกาของครอบครัว ทำให้พวกเราได้มองเห็นมุมมองว่าคุณเป็นเด็กหญิงคนนึงที่มองปกติ แม้กระนั้นก็มีปัญหาคาใจที่จำเป็นต้องผ่านไปตามประสาบุตรสาวชาวจีนที่ถูกคาดหมายแล้วก็เมื่อไม่เป็นดังที่มุ่งมาด
Drifting Home บ้านลอยล่อง
หนังอนิเมะ Netflix แนวแฟนตาซี ดูหนังฟรี ความยาว 2 ชั่วโมง มีบรรยายไทย เรื่องราวของกลุ่มเด็กที่อาศัยอยู่บนอพาร์ตเมนต์ลึกลับที่ลอยล่องกึ่งกลางสมุทรปัญหา โดยที่พวกเด็กๆจำต้องพากเพียรหาทางเอาชีวิตรอดแล้วก็กลับไปอยู่ที่บ้านให้ได้
Drifting Home บ้านลอยล่องวัวสุเกะ กับ นัตสึเมะ เพื่อนต่างเพศสุดซี้กันตั้งแต่เด็กเนื่องจากเติบโตมาด้วยกันในบ้านมาด้วยกันแต่ว่าวัยเด็ก กระทั่งทั้งสองขึ้นชั้นประถม ดูเหมือนทั้งสองจะมีเรื่องมีราวที่ทำให้แตกแยกจนถึงความเกี่ยวพันไม่เป็นดังเดิม กรุ๊ปเพื่อนฝูงของเขาได้เข้าไปยังอาคารที่เป็นบ้านเก่าของพวกเขารวมทั้งเกิดเหตุสุดแฟนตาซีที่ทำให้พวกเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดไปจากเหตุนี้ ที่อยู่ดีๆภายหลังฝนตกเพียงแค่วูบเดียวก็เปลี่ยนเป็นบ้านลอยละล่องอยู่ศูนย์กลางสมุทร ทำให้พวกเขาเบาๆพบเห็นความจำวัยเด็กของทั้งสอง พวกเขาจะเลิกทะเลาะกันได้หรือเปล่า แล้วก็จะกลับไปสู่โลกเดิมได้ยังไง ก็เลยเกิดเรื่องราวของหนังคราวนี้
อนิเมะประเด็นนี้มาจากค่าย Studio Colorido ที่สร้างชื่อจาก “Penguin Highway” ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Japan Academy Film Priz ครั้งที่ 42 ในสาขาภาพยนตร์แอนิเมชันดี แล้วก็ผลงาน “เหมียวน้อยรอรัก (A Whisker Away)” ผลงานที่ลง Netflix ไปในปี 2020 โดยยังเกิดเรื่องราวแฟนตาซีอิงความศรัทธาประเทศญี่ปุ่นเป็นแบ็คกราวด์หลบซ่อนอยู่ซีดๆดำเนินเรื่องโดยใช้ผู้แสดงนักเรียนประถมทั้งสิ้น แต่ว่าก็มีความเป็นผู้ใหญ่เกินกำลังอยู่ในเรื่องราวนี้ด้วยด้วยเหมือนกัน
ความแฟนตาซีของหัวข้อนี้เกิดขึ้นโดยมิได้มีคำชี้แจงแบบแน่ชัดตั้งแต่ต้นกระทั่งจบ ฉะนั้นตัวเรื่องก็เลยมิได้เป็นการเผชิญภัยเพื่อไขปัญหาว่าเกิดขึ้นได้ยังไง ถึงแม้นักแสดงในเรื่องจะเพียรพยายามหาคำตอบแต่ว่าก็ไม่เจอ มีเพียงแต่การกล่าวอ้างอิงแบบเป็นนัยๆถึงพวกความเลื่อมใสของทางทวีปเอเชียเกี่ยวกับพวกวิญญาณหรือเทวดาที่อาศัยย์อยู่ในสิ่งต่างๆเชื่อมโยงว่าอพาร์ตเมนต์มีบางอย่างอยู่ที่ไม่ใช่ผี แล้วก็มิได้มีแต่ว่าตรงนี้แค่นั้นที่ลอยอยู่ในสมุทรปัญหานี้แค่นั้น ซึ่งคนทางทวีปเอเชียอาจจะพอสมควรแล้วรู้เรื่องอยู่บ้าง
แม้กระนั้นหากอยากได้เฉลยคำตอบในประเด็นนี้ไม่มีให้ รวมทั้งมองเป็นจุดอ่อนสำคัญของหัวข้อนี้ด้วยเหมือนกันที่ทุกสิ่งดูราวกับว่าถูกยัดใส่มาแบบมิได้คิดจะชี้แจงอะไร ถึงแม้บางทีอาจจะมองไม่สำคัญหรือเปล่าทำให้งวยงงก็ตาม แม้กระนั้นขั้นต่ำก็คงจะมีคำชี้แจงอะไรมากยิ่งกว่านี้ เนื่องจากมันจะช่วยปรับให้คนอินกับเรื่องราวได้มากกว่าที่เป็นอยู่
เด็กบุคคลอื่นเกือบจะเป็นตัวประกอบของเรื่องมากกว่า doomovie เพราะเหตุว่าแทบจะไม่มีหน้าที่สำคัญอะไรกับเรื่อง ตัวเรื่องบากบั่นเป็นอย่างมากที่จะสร้างอารมณ์แนวความรักใสๆแบบเด็กดึงดันรักแม้กระนั้นกล้ากล่าวบอกออกมา ประพฤติตัวเป็นคู่ปรับกันตลอดระยะเวลา ซึ่งทำให้ทั้งยังเรื่องมีแต่ว่าฉากซึนกันไปซึนกันมาออกจะน่าระอาอยู่พอควรถ้าเกิดเป็นผู้ใหญ่มอง
ซึ่งอาจจะพอใจด้านการเสี่ยงภัยเอาชีวิตรอดมากยิ่งกว่า แต่ว่าเนื่องจากว่าประเด็นนี้เป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมทั้งผอง ตัวเรื่องก็เลยไม่ถึงกับขนาดแนวเซอไววัลเอาชีวิตรอดอะไรได้มาก แม้กระนั้นตัวบทก็บากบั่นให้นักแสดงเด็กนี้แสดงความเป็นผู้ใหญ่ มานะหาทางหาอาหารที่ไม่ใช่แค่อุตสาหะตกปลา แม้กระนั้นเป็นการเสี่ยงอันตรายผ่านไปยังบ้านอื่นๆที่ลอยสวนผ่านมาในเรื่องเพื่อหาอาหารมาประทังชีวิตเป็นหลัก แต่ว่าอันอื่นตัวเรื่องเกือบจะไม่เอ่ยถึงเลยว่าควรมีอะไรบ้าง ซึ่งก็หยวนๆรู้เรื่องได้น่าฟังมันไม่ใช่แนวเอาชีวิตรอดเต็มดูดแบบที่บอก
นอกเหนือจากนี้ยังมีตัวละครปัญหาที่มาในรูปร่างของเด็ก แต่ว่าก็มีความพิเศษอะไรบางอย่างประจำตัว รวมทั้งเกี่ยวข้องกับสถานะการณ์นี้โดยตรง และก็มานะบิ้วให้เรื่องราวดราม่าผ่านการไขปัญหาว่าเขาคนนี้เป็นผู้ใด แม้กระนั้นเนื่องจากว่าตัวเรื่องแทบจะไม่มีคำชี้แจงอะไรออกมาแน่ชัดด้วย ก็เลยเสมือนคำตอบที่เปิดกว้างให้ผู้ชมจินตนาการคุ้นเคยในระดับหนึ่งมากยิ่งกว่า
ภาพงามมาตรฐานอนิเมะประเทศญี่ปุ่นงานภาพนั้นงามมากมายเรียกว่าตามมาตรฐานที่ประเทศญี่ปุ่นสร้างภาพยนตร์อนิเมะ แถมเป็นบรรยายไทย ทำให้ไม่ต้องรออ่านดูดซึมดีเลิศจริงๆนักแสดงทั้งผองย้ำไปที่เด็กนักเรียนชั้นประถม ด้านฉากประกอบส่วนตัวมองผ่านๆแม้กระนั้นรู้สึกว่าฉากเก่าย้อนอดีตกลุ่มนี้ถ้าหากคนใดเคยอาศัยในประเทศญี่ปุ่นอดีตคงจะรู้สึกอินกับภาพย้อนเหล่านี้ที่ค่อยฉายให้มองเห็นความเคลื่อนไหวของความรุ่งเรือง ซึ่งก็พอเพียงจะทับซ้อนกับบางพื้นที่ในไทยได้อยู่บ้าง ด้านเรื่องราวรวมทั้งการเล่าตอนต้นมีความคิดว่าปูเรื่องนานไปนิดในขณะที่หัวข้อก็มิได้ทายใจยากนัก แต่ว่าก็ยังมองได้เพลิดเพลินไม่ถึงกับขนาดเบื่อไปซะก่อน อาจเกิดขึ้นจากในตอนที่มีสูงถึง 2 ชั่วโมง
สิ่งที่ทำให้ประเด็นนี้น่าดึงดูดเป็นความสัมพันธ์ในอดีตกาลของผู้แสดงนำ กับเรื่องราวของครอบครัวของทั้งคู่ ที่ทำให้ทำน้ำตาซึมออกได้อยู่เช่นกัน โดยรวมมีความคิดว่าจะถูกอกถูกใจกับผู้ที่เคยมีบ้านเก่าที่เชิญนึกถึง และก็ยิ่งมีบุคคลที่พวกเราผูกพันอยู่ในบ้านข้างหลังนั้นด้วยแล้วคงจะทำให้ยิ่งอินกับเรื่องราวทำซาบซึ้งใจได้เพิ่มขึ้น
ชื่อ ‘Drifting Home’ สื่อความตรงตัวถึงตึกห้องพักซึ่งเคยเป็น ‘บ้าน’ (home) ของวัวสุเกะและก็นัตสึเมะกำลัง ‘ลอย’ (drift) บนแผ่นน้ำ ดังนี้ในภาษาอังกฤษมีสำนวน ‘drift away/apart’ ซึ่งก็คือการที่คนเคยสนิทกันเบาๆห่างเหินกันไปตามเวลา เหมือนเรือที่ลอยห่างออกมาจากฝั่งทุกครั้งๆโดยเหตุนั้นเมื่อตรึกตรองชื่อโดยอาศัยความหมายของสำนวนนี้ประกอบกับบริบทของเรื่อง
ก็สามารถแปลความได้ว่า ไม่ใช่แค่เด็กน้อยผู้แสดงนำทั้งยัง 2 คนแค่นั้นที่กำลังห่างเหินจากกัน แต่ทว่าสถานที่อันเคยเป็น ‘บ้าน’ ของทั้งสอง ซึ่งย่อมพ่วงมาด้วยความจำและก็ความสัมพันธ์จำนวนมาก ก็เสมือนกำลัง ‘ลอยละล่อง’ ออกไปจากชีวิตของพวกตน ด้วยเหตุว่าตัวตึกจึงควรโดนตีทิ้งเร็วนี้ๆ พูดได้ว่าเป็นการตั้งชื่อภาษาอังกฤษที่ซ่อนเร้นนัยอย่างหลักแหลม
ตอนเปิดเรื่องราว 15 นาทีแรก ประกอบกับภาพโปสเตอร์เสนอแนะหนังสีสันแจ่มใส อาจจะเป็นผลให้บางบุคคลรู้เรื่องว่ากำลังจะได้รับดูหนังอานิเมะสนุกสนานๆเกี่ยวกับกรุ๊ปเด็กน้อยเสี่ยงภัยในต่างโลก (Isekai) เพื่อหาทางกลับไปอยู่บ้าน กลางทางก็ได้ศึกษาจุดสำคัญของพลังมิตรภาพพร้อมทั้งได้เติบโตขึ้นทางความนึกคิดจิตใจ ทำนองว่า Digimon หรืออะไรทำนองนั้น… หากคุณเองก็กำลังคิดอย่างนี้ ขอให้ทราบว่าคิดถูกแล้ว แม้กระนั้นเพียงแค่ 10% แค่นั้น
จริงอยู่ เค้าโครงเรื่องเป็นการเสี่ยงอันตรายในโลกแฟนตาซีเพื่อหาทางกลับสู่โลกเดิม แต่ว่านักแสดงที่จะต้องมาดำเนินเรื่องตามพล็อตนี้เป็นเด็ก เปรียญ6 ปกติมิได้มีสกิลพิเศษหรือของยอดเยี่ยมประจำตัวทั้งยังก่อนและก็ข้างหลังผ่านมาต่างโลก แถมยังมิได้ฉลาดหลักแหลมและก็อ่อนโยนเกินวัยแบบเจ้าอาโอยามะใน Penguin Highway แต่ทว่าเป็นเด็ก เปรียญ6 ที่มีนิสัย จิตใจ รวมทั้งความตรึกตรองสมอายุ 11 – 12 ปีจริงๆอีกทั้งดื้อ ดื้อ ดันทุรัง พอเพียงตื่นกลัวก็ทำอะไรผิด ถึงจะรักเพื่อนพ้อง แต่ว่าก็ห่วงใยเฉพาะคนที่ถือได้ว่าเป็นพวก ถ้าเกิดไม่ใช่ จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่สนใจ จนถึงตัวสำคัญอย่างวัวสุเกะรวมทั้งนัตสึเมะก็มักแสดงก้าวร้าวแบบเด็กๆออกมาเป็นประจำ
เรื่องราวของมิตรภาพเหนือสิ่งอื่นใด นิสัยไม่ดีของเด็กๆกลุ่มนี้จะมีให้มองเห็นไปตลอดทั้งเรื่อง แต่ว่าจะมองเห็นลดลงเพราะเหตุว่าตัวหนังรอหาโมเมนต์ให้ผู้แสดงได้แสดงด้านที่ (คงจะ) ทำให้ผู้ชมเห็นด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ doomovie แม้กระนั้นถึงอย่างงั้นในกรุ๊ปตัวนำก็มีบางตัวที่จนแล้วจนรอดมีหน้าที่น้อยจนกระทั่งแทบจะตัดทิ้งได้โดยไม่มีผลเสียกับเรื่องราว รวมทั้งว่ากันตามจริง ผู้แสดงทุกตัวในประเด็นนี้ไม่มีความเจริญ เนื่องจากว่าภาพยนตร์หัวข้อนี้ไม่ใช่แนว Coming-of-age แต่ว่ามันเป็นดราม่าในคราบเปื้อนแฟนตาซีที่บีบคั้นให้นักแสดงทำความเข้าใจรวมทั้งเห็นด้วยเรื่องจริงบางสิ่งบางอย่างให้ได้ เพื่อสามารถ ‘มูฟออน’ ถัดไป
CG การลงสี ลายเส้นเนื้อหาภาพ แอนิเมชัน เห็นว่าละเอียดใช้ได้ มีความสมจริงสมจังและก็มีการเล่าราวที่เร็ว มีวิธีการเดินเรื่องราวที่เป็นธรรมชาติ สร้างอารมณ์ร่วมกับผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้พวกเรารู้สึกว่าพวกเราติดในเรื่องอย่างนั้นพวกเราจะทำเช่นไรการออกแบบคาแรคเตอร์ผู้แสดงในการ์ตูนแอนิเมชัน Drifting home ออกจะน่าดึงดูด ในเรื่องมีตัวละครเพียงแค่ไม่กี่ตัวแค่นั้นแต่ทำให้นักแสดงทุกตัวมีเอกลักษณ์ น่าจำ สำหรับผู้ชมรู้สึกชอบใจในนักแสดงคาแรคเตอร์ของจูริรวมทั้งวัวสุเกะ ที่ฝั่งหนึ่งเป็นคนเห็นแก่ได้นึกถึงแม้กระนั้นเรื่องของตนเอง และก็อีกฝั่งหนึ่งเป็นผู้ที่รักสหายนึกถึงการเกื้อกูลบุคคลอื่นก่อน คิดว่าการเดินเรื่องราวเหมือนจริงใช้ได้
ตัวหนังเสนอเป็นความรักกันของกรุ๊ปเพื่อนพ้องแม้ว่าจะมีทะเลาะกันอยู่บ้างแม้กระนั้นต่างก็รอช่วยเหลือเจือจานกัน และก็ยังมีการแทรกวิชาความรู้เอาชีวิตรอดในสมุทรอีกด้วย อย่างเช่น แนวทางการหาน้ำจืดดื่ม หรือเก็บผักต้นหญ้ามากินแทนของกิน ก็มองสมจริงสมจังดี แม้กระนั้นก็มีหลักสำคัญที่ไม่ควรกระทำตามอยู่อย่างการแอบเข้าไปในสถานที่ห้าม หรือผู้กระทำระกระโดดห้อยโหนในที่สูง รู้สึกว่าถ้าเกิดเกิดเรื่องจริงคงจะเจ็บหนักจนตายได้เลย
การออกแบบผู้แสดงน่าดึงดูดส่วนด้านเรื่องลี้ลับรวมทั้งความแฟนซีก็สนเท่ห์ใจนิดหน่อยว่าแบบงี้เลยรึ แม้ว่าจะพอเพียงทายใจได้จางแม้กระนั้นก็ไม่ตรงเสียรู้เดียว แต่ว่าพอเพียงมาดูย้อนไปแล้วหลังจากนั้นก็มีความเห็นว่าไม่ได้ต่างอะไรจากเรื่องราวผีสางในบ้านพวกเราเท่าใดนัก มีความคล้ายคลึงที่แปลแปรไปอีกต้นแบบนึงที่มิได้พูดว่านี่เป็นผีแบบที่พวกเรารู้จัก ถึงจะมีการกล่าวพูดว่ามีผีแต่ว่าบอกเลยว่าไม่มีฉากไหนน่าสะพรึงกลัวสยองขวัญเลยซักนิด มีแต่ว่าความอบอุ่นหัวใจ กับความเกี่ยวเนื่องของกรุ๊ปเพื่อนพ้อง รวมทั้งความสัมพันธ์ในสถานที่ในความจำของมนุษย์เพียงแค่นั้น
Jujutsu Kaisen 0 มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่
Jujutsu Kaisen 0 มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ รีวิวหนังทวีปเอเชีย Jujutsu Kaisen (มหาเวทผนึกมาร) นับเป็นการ์ตูนยอดนิยมจากประเทศญี่ปุ่นอีกหนึ่งเรื่องยอดนิยมไปทั้งโลกอย่างถล่มทลายจนถึงสามารถพูดได้ว่า หนังฟรี หายใจรดก้านคอ Kimetsu no Yaiba (Demon Slayer) มาติดๆ เพราะฉะนั้นเอง เมื่อ Jujutsu Kaisen 0 ออกฉายในโรงที่ประเทศญี่ปุ่นภายหลังที่ประสบผลสำเร็จอย่างงดงามจากอนิเมฤดูกาลแรกบนโทรทัศน์ แฟนคลับดูหนังผ่านเน็ต รวมทั้งคออนิเมทั้งหลายก็เลยพากันไปอุดหนุนอย่างอุดหนุนอย่างมากมาย (เปิดตัวในวันแรกด้วยยอดรายได้มากถึง 1.05 พันล้านเยน ) มีผู้คนจำนวนมากเลยที่รู้สึกลุ้นอยู่ในใจว่า Jujutsu Kaisen 0 ดูหนังฟรี จะเปลี่ยนเป็นตำนานที่ Box Office ประเทศญี่ปุ่นเรื่องต่อไปไหม
นับว่าเป็นหนึ่งในอนิเมะมูฟวี่ที่ได้รับการกล่าวถึงและก็กล่าวขวัญเยอะที่สุดของปี doomovie ตั้งแต่ทีแรกๆที่เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่น ไหลไปฉายต่างถิ่น ตราบจนกระทั่งเพิ่งจะลาโรงที่มาตุๆพื้นที่แม่ไปเมื่อเร็วๆนี้ จัดเป็นงานที่ไปถึงเป้าหมายเป็นอย่างมากไม่ว่าจะในทางของรายได้หรือคำชื่นชมจากผู้ดูมาก่อนหน้าซึ่งหากแม้มันจะเป็นอนิเมะมูฟวี่ที่ทำจากมังงะซึ่งเผยแพร่มาก่อน แล้วก็หลายท่านก็ทราบเรื่องราวอยู่แล้ว แต่ว่าการที่ตอนมันเป็นอนิเมะโทรทัศน์ทำไว้ดีจัด ก็ช่วยไม่ได้ที่แฟนคลับจะมุ่งหวังประสิทธิภาพของหนังโรง เพิ่มเติมกับคำชื่นชมล้นหลามจากต่างแดนก็ทำให้ต้องการจะมองกันให้ได้เสียตอนนี้
Jujutsu Kaisen 0 มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่Jujutsu Kaisen 0 เป็นภาพยนตร์อนิเมะซึ่งมีเรื่องมีราวราวเกิดขึ้นก่อนเหตุในอนิเมะภาคหลัก โดยใช้ผู้แสดงหลักดำเนินเรื่องคนละชุดกัน แม้กระนั้นถึงอย่างงั้นพวกเราก็จะได้มองเห็นผู้แสดงคุ้นตาชินตาโผล่ออกมาบ้างนิดๆหน่อยๆ รวมถึงนักแสดงที่ได้รับความนิยมก็ยังคงมีหน้าที่ไม่น้อย ในด้านแฟนเซอร์วิสก็เลยไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจอะไรมากสักเท่าไรนัก
ผู้แสดงนำของภาคนี้เป็น “อคคตสึ ยูตะ” เด็กวัยหนุ่มไม่กล้าผู้มีคำแช่งระดับพิเศษอยู่กับตนจนถึงจะต้องถูกดึงตัวมาเรียนที่สถานศึกษาไสยศาสตร์ ซึ่งตรงนั้นเขาก็ได้เจอกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง มากิ, แพนด้า แล้วก็ อินุมากิ ที่ทำให้เขาเหมือนกับได้เจอโลกใหม่ แต่ว่าพวกเราก็รู้ว่ามันคงจะไม่ง่าย กระทั่งก่อให้เกิดเป็นสถานะการณ์จุดสำคัญใน Jujutsu Kaisen 0เกะโทผู้หมายมาดจะสร้างสวรรค์ที่มีแค่เพียงผู้ใช้คุณไสย ได้ปลดปล่อยคำแช่งนับพันตนสู่คุ้นชินจูกุแล้วก็เกียวโตคล้ายอยากกำจัดผู้ไม่มีวิชาให้หมดสิ้น–
ในในที่สุดแล้วยูตะจะหยุดเกะโทได้หรือเปล่า และก็การแก้คำแช่งของริกะจะเดินต่อไปในแนวทางใดJujutsu Kaizen 0 จะมีเป็นเรื่องราวปฐมบทของตัวซีรีส์อนิเมะ โดยดารานำชายของภาพยนตร์นี้ก็คือ ‘อคคตสึ ยูตะ’ ชายหนุ่มมัธยมผู้ถูกสาปให้อยู่กับแฟนยุคเด็กที่เสียชีวิตไปนานแล้วชื่อว่า ‘โอริโมโตะ ริกะ’
วันหนึ่ง ยูตะถูกอันธพาลรุมทำร้าย ก็เลยทำให้ริกะปรากฎตัวออกมาในร่างภูติผี รวมทั้งรังควานอันธพาลพวกนั้นกระทั่งบาดเจ็บหนักมาก เพราะเหตุนี้ ก็เลยทำให้ยูตะจำเป็นต้องถูก ‘โกโจ ซาโตรุ’ คุณครูสอนผู้ใช้คุณไสยระดับพิเศษ รับไปดูแลเป็นผู้เรียนปี 1 ของสถานที่เรียนจูจุทสึ เพื่อไม่ให้ยูตะเผลอปลดปล่อยริกะออกมารังแกผู้คนอีก
อย่างไรก็แล้วแต่ ในตอนที่ยูตะกำลังฝึกซ้อมการควบคุมพลังของตนเอง ‘เกะโท สุงุรุ’ เพื่อนเก่าของโกโจ แล้วก็ตัวร้ายหลักของเรื่อง ก็ได้ปรากฎตัวแล้วก็พากเพียรชักพาให้ยูตะเข้าร่วมแนวทางทำลายมนุษยชาติที่ไม่มีไสยศาสตร์ย์ให้หมดสิ้น แน่ๆว่าผู้แสดงนำชายของพวกเราไม่เห็นพ้องกับแผนของเกะโทก็เลยได้ปฎิเสธไป เพราะเกะโทปรารถนาพลังของยูตะมากมายๆก็เลยได้ประกาศทำ
ศึกทำสงครามกับทางข้างสถานศึกษาจูจุทสึนั่นเองสรุปในส่วนของเรื่องราวที่ย้ำไปทางความรักระหว่างยูตะรวมทั้งริกะที่เปรียบเทียบได้อีกทั้ง ‘คำแช่ง’ แล้วก็ ‘พลังเวทย์’ จัดว่าทำออกมาให้อีกทั้งแฟนคลับที่ไม่เคยอ่านมังงะมาก่อน doomovie แล้วก็ผู้ชมใหม่สามารถอินไปกับเรื่องราวแล้วก็รู้เรื่องกับมันได้ง่าย แม้กระนั้น ตัวยูตะเองก็ค่อนจะมีวิวัฒนาการคล้ายกับดารานำชายอนิเมะโชเน็นทั่วๆไป ดังเช่นจู่ๆก็เข้มแข็งกว่าธรรมดา เมื่อมองเห็นเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันของตนเองถูกทำร้าย
ส่วนฉากต่อสู้สุดวิจิตรตระการตาต่างๆของภาพยนตร์ก็สามารถทำให้ตื่นเต้นแล้วก็หนำใจไปกับผู้แสดงได้ นอกเหนือจากนี้แล้ว สำหรับแฟนคลับที่ติดตามซีรีส์อนิเมะมาก่อน ในรูปภาพยนตร์หัวข้อนี้ก็มีเหล่าผู้แสดงรองจากซีรีส์อย่าง อินุมากิ, เซนอิน, รวมทั้งแพนด้าเข้ามามีหน้าที่สำคัญอีกด้วยเหมือนกัน ซึ่งแม้หนึ่งในนั้นเป็นตัวละครโปรดของคุณอยู่แล้วล่ะก็ ด้วยเงื่อนต่างๆที่ถูกเปิดเผยในรูปภาพยนตร์ พูดได้ว่าจะมีผลให้คุณรักพวกเขามากยิ่งขึ้น
ส่วนของงานภาพแอนิเมชันต่างๆก็ได้กลุ่มสตูดิโอ MAPPA มาจัดแจงอีกรอบ ซึ่งแม้คุณถูกใจงานจากตัวซีรีส์อนิเมะอยู่แล้ว ก็พูดได้ว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับตัวภาพยนตร์อย่างแน่แท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากต่อสู้ในเรื่องที่แอนิเมชันออกมาได้มันมากมายๆ
เรื่องงานภาพคงจะไม่ต้องกล่าวอะไรมากมาย เพราะเหตุว่าได้ Mappa สตูดิโอเดียวกับตอนอนิเมะฉายโทรทัศน์มาทำ ก็เกือบจะประกันเรื่องประสิทธิภาพอยู่แล้ว เพียงแค่มองเห็นฉากตอนเปิดเรื่องก็สัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพและก็งานประณีตบรรจงและละเอียดลออ ถึงแม้ว่าจะไม่นับรวมตอนจุดสำคัญสุดบ้าพลังช่วงท้าย มันก็เกือบจะหาจุดเผาไม่พบอยู่ดี ถือว่าทาง Mappa สามารถรักษามาตรฐานตนเองได้เยี่ยม ขอยกย่อง
ขณะที่เรื่องราวจะเอ๋ยถึงความเชื่อมโยงของอีกทั้ง 4 คนเป็นหลัก ซึ่ง 3 ใน 4 พวกเราเคยได้เห็นมาแล้วในภาคหลัก doomovie แม้กระนั้นเพียงพอมามองเห็นพวกเขาในแบบที่เด่นขึ้นในมูฟวี่ก็คิดว่าอินกับพวกเขามากยิ่งกว่าเก่า มีฉากเยี่ยมๆมาก ได้แก่ฉากสู้ขมักเขม้นของแพนด้า หรือ มากิร่างอ่อนวัย ซึ่งนับว่าเป็นความดีที่สุดในเรื่องแล้ว ของโคตรดีจังๆ
การเล่าเรื่องก็ทำเป็นไหลลื่นสมูธ ถึงแม้เรื่องราวบางทีก็อาจจะขวานผ่าซากไม่สลับซับซ้อน แม้กระนั้นเพียงพอมันถูกเสนอในจังหวะที่ถูกก็เลยมิได้ขัดข้องอะไรนัก อาจมีตอนต้นๆที่มองเพซอืดไปบ้าง betflix99 แม้กระนั้นก็ไม่นานนัก หรือถ้าเกิดจะมีอะไรติเตียนจริงๆอาจคือการใช้เพลงประกอบที่ไม่คุ้มเท่าใด เนื่องจาก 2 เพลงของวงดังอย่าง King Gnu ซึ่งถูกโปรโมตว่าเป็น OST ของเรื่องกลับมิได้ถูกใส่เข้าไป รวมทั้งมาเป็นเพลงตอนเครดิตขึ้นแบบชิดกันเพียงแค่นั้น โชคร้าย
Jujutsu Kaisen 0 มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้จริงๆว่า Jujutsu Kaisen 0 เป็นหนึ่งในอนเมะมูฟวี่ประสิทธิภาพของปีนี้ มันมีครบอีกทั้งเรื่องราวชักชวนลุ้น ฉากแอคชั่นสุดสนุก ผู้แสดงที่น่าเอาใจช่วย มีครบทั้งหมดทุกอย่างเท่าที่อนิเมะดีๆเรื่องหนึ่งควรมี ด้วยเหตุนี้แล้วคนใดกันแน่ที่เป็นแฟนซีรีส์นี้หรือต้องการมองอนิเมะบันเทิงใจๆสักเรื่อง Jujutsu Kaisen 0 จัดว่าตอบปัญหา และก็แน่ๆว่าของดีอย่างงี้จะเสพย์ให้เต็มสมรรถนะก็จะต้องในโรงหนังแค่นั้น ไปดูกันให้ได้ล่ะ!
ภายหลังที่ได้มองจนถึงจบก็ไม่ประหลาดใจเลยว่าเพราะอะไรถึงได้ขึ้นแท่นเป็นเยี่ยมในรูปภาพยนตร์อนิเมะซึ่งสามารถปัดกวาดรายได้เป็นอันดับหนึ่งของโลก (รายงานจาก Mantan Web ได้เปิดเผยว่า Jujutsu Kaizen 0 สามารถทำรายได้มากยิ่งกว่า 170 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือราว 5,997 ล้านบาท ภายหลังเข้าโรงหนังเป็นครั้งแรก)
เนื่องด้วยเรื่องราวสามารถเล่าออกมาให้ผู้ชมคนใหม่รวมทั้งแฟนคลับของซีรีส์ทำความเข้าใจได้ง่าย พร้อมด้วยการนำนักแสดงรองที่ทุกคนพอใจจากซีรีส์อนิเมะเข้ามาเฉิดฉันให้มีความหมายพอๆกับนักแสดงหลัก รวมทั้งการประสมประสาน ดราม่ากับคอมเมดี้ในระดับที่ทำเอาผู้ชมไม่ทราบสึกเครียดกับฉากซีเรียส กลับรู้สึกบันเทิงใจรวมทั้งหนำใจไปกับฉากต่อสู้ที่มีเพลงประกอบรวมทั้งแอนิเมชั่นที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยมที่สุดอีก
