แปลงเพศ ถูกกฎหมาย การปกป้องสิทธิในกระบวนการยุติธรรม

แปลงเพศ ถูกกฎหมาย

แปลงเพศ ถูกกฎหมาย นิติกรเพื่อสิทธิสตรีผ่านเพศร้องแพทยที่ประชุม เปลี่ยนแปลงข้อบัญญัติปลด LGBT จากภาวการณ์ไม่ปกติทางเพศทนายความเพื่อสิทธิหญิงผ่านเพศยื่นหนังสือแพทยที่ประชุม แก้คำว่า“โรคหรือสภาวะไม่ดีเหมือนปกติทางใจเวช” และก็ “ความประพฤติงงเต็กในเพศตัวเอง” ในข้อกำหนดแพทยที่ประชุมเกี่ยวกับการดูแลและรักษาศีลธรรมที่วิชาชีพเวชศาสตร์ เรื่องกฏเกณฑ์การดูแลรักษาเพื่อเปลี่ยนเพศ พุทธศักราช 2552 วันที่ 28 เดือนตุลาคม 2565 ชิษณ์ชาภา พานิช นิติกร

Contents

Table of Contents

แปลงเพศ ถูกกฎหมาย  เพื่อสิทธิสตรีผ่านเพศ

แปลงเพศ ถูกกฎหมาย

เข้ายื่นหนังสือต่อแพทยที่ประชุมแล้วก็ข้างจรรยาบรรณและก็ข้อบังคับ แพทยที่ประชุม ขอให้แพทยที่ประชุมปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนถ้อยคำในข้อปฏิบัติแพทยที่ประชุมเกี่ยวกับการดูแลและรักษาศีลธรรมที่วิชาชีพเวชศาสตร์เรื่องมาตรฐานการดูแลรักษาเพื่อเปลี่ยนเพศ พุทธศักราช 2552 ข้อ 4 วรรคแรก แปลงเพศ ถูกกฎหมาย ที่ข้อกำหนดว่า “การผ่าตัดเปลี่ยนเพศ เป็นการดูแลรักษาโรคหรือสภาวะเปลี่ยนไปจากปกติทางด้านจิตเวช” และก็ ข้อ 6ตั้งแต่พ.ค. พุทธศักราช 2562

องค์การอนามัยโลกถอดถอนบุคคลผ่านเพศ

ออกมาจากหมวดที่ว่าด้วยโรคหรือสภาวะไม่ดีเหมือนปกติทางระบบวิวัฒนาการประสาทในบัญชีแบ่งโรคระหว่างชาติ ฉบับที่ 11 หรือ ICD-11 โดยย้ายมาอยู่ในหมวดที่ว่าด้วยสภาวะที่สโมสรกับสุขภาพทางเพศแทน และก็ให้นิยามใหม่ว่า ภาวการณ์ผ่านเพศเป็น ความไม่ใกล้เคียงของเพศสภาวะ ซึ่งคือเรื่องธรรดาแล้วก็ไม่ใช่โรคหรือความผิดแปลกด้านจิตเวชแต่ว่าเกิดเรื่องที่จะต้องดูแลในฐานะสุขสบายภาพทางเพศเพียงแค่นั้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. พุทธศักราช 2565 เป็นต้นมา

มาตรการด้านกฎหมายสำหรับในการป้องกันสิทธิบุคคลที่ผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิง

บทความศึกษาค้นคว้านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปัญหาอันเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการมิได้รับการปกป้องสิทธิในกระบวนการยุติธรรม และก็สิทธิทางด้านสังคม ของบุคคลที่ผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิงเรียนรู้มาตรการทางด้านกฎหมายสำหรับการคุ้มครองป้องกันสิทธิบุคคลที่ผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิง ตามแนวความคิดแนวคิดของเมืองนอก และก็หาทาง

แนะนำเกี่ยวกับมาตรการทางด้านกฎหมายสำหรับการป้องกันสิทธิบุคคลที่ผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิงที่เหมาะสมกับเมืองไทย โดยใช้ต้นแบบการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเชิงประสิทธิภาพและก็เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเอกสาร การสัมภาษณ์เจาะลึก และก็การคุยกันกรุ๊ป รวมทั้งพินิจพิจารณาข้อมูลโดยใช้วิธีการพินิจพิจารณารายละเอียดและก็แปลจากการเปรียบเทียบ

การคุ้มครองป้องกันสิทธิของบุคคลที่ผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิง

ในหัวข้อการถูกค้นตัวมีคำแนะนำว่า จำต้องให้เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นเพศเมียกระทำการค้นตัว สำหรับเพื่อการถูกกักคุมต้องแยกห้องกักคุมออกมาจากผู้ชาย การสืบสวนบุคคลที่ผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิง ในฐานะผู้เสียหายในคดีไม่ถูกเกี่ยวกับเพศ จะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสาวเป็นผู้สืบสวน การควบคุมขังจึงควรได้รับความปกป้องสิทธิโดยแยกอาณาเขตการควบคุมขังออกมาจากผู้ชาย

เพื่อคุ้มครองการเช็ดกล่วงฝ่าฝืนทางเพศ

การทำงานในคุกก็จึงควรจัดให้ แปลงเพศ ถูกกฎหมาย ดำเนินการประเภทเดียวกับผู้หญิง สิทธิสำหรับเพื่อการปฏิบัติงานควรจะได้รับความคุ้มครองปกป้องโดยให้ดำเนินงานในลักษณะเดียวกันกับผู้หญิง ไม่ให้ปฏิบัติงานที่มีการเสี่ยง การกำหนดค่าแรงจะต้องมีความทัดเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ นอกเหนือจากนี้ควรจะให้สิทธิบุคคลที่ผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิงแต่งงานกับผู้ชายได้ เพื่อกำเนิดสิทธิหน้าที่ต่อกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

กรณีการใช้คํานําหน้านามของบุคคลที่เปลี่ยนเพศ

เป็นการเล่าเรียนอีกทั้งในด้านของนิติศาสตร์ที่เกี่ยวกับสิทธิขั้นต้นซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงในเรื่องของสิทธิเสรีภาพของบุคคลเปลี่ยนเพศว่ามีอยู่เช่นไร รวมทั้งสามารถใช้สิทธิความอิสระที่ตนมีอยู่นั้นได้ในทางใดบ้าง การศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยอีกทั้งที่ไปที่มาว่าการเปลี่ยนเพศนั้นมีจุดเริ่มแรกมาจากจุดใด โดยรวมถึงความรู้สึกนึกคิดของคนภายในสังคม ทั้งยังในอดีตกาลรวมทั้งในปัจจุบันนี้ว่ามีความความเห็นเกี่ยวกับบุคคลที่เปลี่ยนเพศนั้นเช่นไร การเรียนในหัวข้อต่างๆนี้ก็เพื่อได้รู้ถึงนิยามความหมายที่เกี่ยวกับบุคคลที่มีความมากมายหลากหลายทางเพศนั้นว่าหมายคือ กรุ๊ปบุคคลจำพวกใดบ้างและก็มีความจําเป็นหรือเปล่า เช่นไร ซึ่งควรจะมีการให้ความหมายอย่างเห็นได้ชัด เล่าเรียนถึงธรรมศาสตร์

สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับหลักสิทธิเบื้องต้นรวมทั้งธรรมศาสตร์

ที่เกี่ยวกับการยืนยันสิทธิและก็สถานะในทางข้อบังคับให้แก่บุคคลผู้มีความมากมายทางเพศรวมทั้งธรรมศาสตร์ หลักเกณฑ์รวมทั้งข้อแม้ของข้อบังคับไทยที่คือปัญหาสำหรับการรับประกันสถานะด้านกฎหมายของผู้แปลงเพศในขณะนี้ ชี้แจงถึงปัญหารวมทั้งปัญหาของการที่ยังไม่ได้มีการบัญญัติกฎหมายเพื่อการยืนยันสิทธิแก่บุคคลผู้มีความมากมายทางเพศไว้อย่างเห็นได้ชัดว่ามีผลต่อการดําเนินชีวิตในสังคมภายใต้ข้อบังคับแก่บุคคลดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นยังไง ตลอดจนความจําเป็นที่จะจะต้องมีการพัฒนาและก็การบัญญัติกฎหมายเพื่อสอดคล้องกับความเป็นไปแล้วก็ภาวะความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม

บุคคลผ่านเพศในประเทศไทยยังจำต้องเผชิญกับปัญหาล้นหลาม

สำหรับการเข้าถึงสิทธิด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การเล่าเรียน การทำงาน ความอิสระสำหรับการเดินทาง แล้วก็การไม่เลือกปฏิบัติ บุคคลผ่านเพศในประเทศไทยที่ให้สัมภาษณ์ในรายงานนี้ ชี้แจงถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการขาดการยืนยันอัตลักษณ์ทางเพศโดยชอบด้วยกฎหมาย แล้วก็อคติเหมารวมที่กว้างใหญ่และก็เป็นโทษ ซึ่งเป็นความจำกัดต่อการเข้าถึงบริการของพวกเขา รวมทั้งบีบให้พวกเขาจะต้องพบเจอกับกระบวนการทำให้ขายหน้าลบหลู่ดูหมิ่นทุกๆวัน

สถานศึกษาในประเทศไทยตอกย้ำซ้ำเติมบรรทัดฐานทางเพศภาวะในสังคมที่แข็ง

ผู้เรียนผ่านเพศในสถานศึกษาไทยจำเป็นต้องพบเจอกับการคุกคาม ผู้กระทำลั่นแกล้งรังควาน แล้วก็การเลือกปฏิบัติ ซึ่งได้รับการหนุนเสริมมาจากการตอกย้ำซ้ำเติมมาตรฐานของรูปพรรณสัณฐาน ซึ่งบังคับให้ผู้เรียนจำต้องแต่งตัวตามเพศโดยกำเนิดของตัวเองเพียงแค่นั้น ตั้งแต่แมื่อชั้นประถมจนกระทั่งระดับมหาวิทยาลัยโดยธรรมดา หลักเกณฑ์เกี่ยวกับเครื่องแบบนักเรียนแล้วก็นิสิต ได้เปลี่ยนเป็นปัญหารวมทั้งเป็นต้นเหตุของความตึงเครียดรวมทั้งความรู้สึกขายหน้าสำหรับเด็กนักเรียนผ่านเพศ

เมืองไทยมีระบบระเบียบสาธารณสุขที่อดทน

รวมทั้งราษฎรทุกคนสามารถเข้าถึงหลักประกันด้านของสุขภาพ แม้กระนั้นบริการพวกนี้ไม่ครอบคลุมการดูแลตอนเปลี่ยนแปลงผ่านของเพศภาวะ รวมทั้งงานศึกษาวิจัยได้ทำให้เห็นว่า บริษัทรับรองของเอกชนไม่ยอมรับที่จะให้ความคุ้มครองป้องกันกับบุคคลผ่านเพศบ้างครั้งเช่นเดียวกัน หรือให้ความปกป้องตามแผนที่สอดคล้องกับเพศที่ถูกระบุมาตั้งแต่กำเนิดของตนเอง ทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะเข้าถึงบริการบางจำพวก และก็ตอนที่หลักประกันสุขภาพของเมืองไทยครอบคลุมต้นแบบการดูแลที่กว้างใหญ่

และบริการด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต แต่ว่ากฎระเบียบให้จะต้องมีการส่งต่อจากผู้ให้บริการเบื้องต้น เพื่อเข้ารับบริการด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต มักแปลงเป็นปัญหาสำคัญสำหรับบุคคลผ่านเพศที่ปรารถนาเข้าถึงการดูแลตอนเปลี่ยนแปลงผ่านของเพศภาวะ ซึ่งมักกำหนดให้จะต้องมีการวัดทางด้านจิตเวชซะก่อน รวมทั้งมักส่งผลให้คนที่อยากได้เข้าถึงการดูแลจะต้องไปสู่วิธีการที่ลบหลู่ดูหมิ่นและก็ดูถูกเหยียดหยามเกียรติของตนเอง

‘แพทยาที่ประชุม’ ออกกฎผ่าตัดเปลี่ยนเพศไฟเขียวอายุ 18 ปีขึ้นไป!

“การดูแลรักษาเพื่อเปลี่ยนเพศ” แสดงว่า กรรมวิธีสำหรับการนกกระทาเพื่อเปลี่ยนเพศซึ่งมีการให้คำปรึกษาแนะที่นา การให้ยา การปรับสภาพร่างกายแล้วก็จิตใจก่อนจะมีการผ่าตัดการผ่าตัดและก็การดูแลคุณภาพชีวิตวันหลังการผ่าตัด โดยหวังผลให้แปลงกายกายแล้วก็จิตใจเพื่อสอดคล้องกับเพศภาวะ

“เพศภาวะ” แสดงว่า ความเป็นหญิง ความเป็นผู้ชาย ที่มาจากความรู้สึกส่วนตัวโดยบางครั้งอาจจะคล้ายคลึงหรือเปล่าสอดคล้องกับเพศเกิดที่กล่าวว่าเป็นเพศเมีย ผู้ชาย

“การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนเพศ” มีความหมายว่า การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนเพศชายให้เป็นเพศเมียหรือเปลี่ยนเพศหญิงให้เป็นเพศผู้ โดยบางทีอาจเป็นการผ่าตัดอวัยวะแสดงเพศทั้งสิ้นหรือเล็กน้อยเพื่อสอดคล้องกับการดูแลและรักษา

หมอเวชศาสตร์ทางเพศแสดงว่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชศาสตร์

แปลงเพศ ถูกกฎหมาย

ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลและรักษาเพื่อเปลี่ยนเพศไม่น้อยกว่าห้าปี หรือมีปริมาณคนรับการดูแลรักษาเพื่อเปลี่ยนเพศไม่น้อยกว่าห้าสิบราย โดยแพทยที่ประชุมยืนยัน แปลงเพศ ถูกกฎหมาย หรือที่ได้รับการอบรมตามหลักสูตรที่แพทยที่ประชุมระบุหรือรับประกัน หรือที่ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติมีความหมายว่าเป็นผู้รอบรู้ความเก่งสำหรับเพื่อการประกอบวิชาชีพเวชศาสตร์สาขาเวชศาสตร์ทางเพศ เวชศาสตร์ทางเพศในสตรี เวชศาสตร์ทางเพศในผู้ชายหรือได้รับหนังสือมีความหมายว่าเป็นผู้รอบรู้ความเก่งสำหรับในการประกอบวิชาชีพเวชศาสตร์สาขาเวชศาสตร์ทางเพศที่แพทยที่ประชุมรับประกัน

การยืนยันเพศสถานะโดยชอบด้วยกฎหมายในประเทศไทยการทบทวนข้อบังคับแล้วก็แผนการ

เวลานี้ คนผ่านเพศไม่อาจจะใช้สิทธิหรือหน้าที่ได้ตามอัตลักษณ์ที่ตนเองปรารถนา เนื่องจากว่าถูกตีกรอบจากเพศเกิดอยู่ ตอนที่เพศไม่ชัดแจ้ง มีปัญหาอีกแบบหนึ่งเป็นถูกเลือกเพศตั้งแต่เด็ก ผู้ดูแล รวมทั้งแพทย์เลือกให้ตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุผลดังกล่าวการที่บุคคลถูกเลือกเพศตั้งแต่เด็กโตขึ้นมามีปัญหา เป็นบางครั้งอาจจะเป็นอีกเพศก็ได้ จะมองเห็นได้ว่าไม่ว่าคนผ่านเพศหรือเพศไม่ชัดเจน มีปัญหาด้านอัตลักษณ์ทั้งสองสำหรับไทย หลายท่านคิดว่าเปิดกว้างเรื่องความมากมายหลายทางเพศมากยิ่งกว่าหลายประเทศ ซึ่งเป็นแบบนั้นในทางของการดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม แต่ว่าก็ยังไม่บางทีอาจพูดได้ว่าสารภาพด้วยความรู้ความเข้าใจ

เนื่องจากสิทธิหลายสิ่งหลายอย่างก็ยังไม่ใกล้เคียงกับแฟนเพศตรงข้าม

ตอนวันที่ 15 เดือนมิถุนายน 2565 ถือว่าเป็นสถานะการณ์ที่สร้างประวัติศาสตร์ในสังคมไทย ที่สภาผู้แทนราษฎรลงความเห็นรับแนวทาง 4 ร่างกฎหมายที่เกี่ยวโยงกับการแต่งงานทัดเทียม ซึ่งนับได้ว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญแล้วก็น่าชอบใจ เพราะเหตุว่าชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าในเรื่องของความทัดเทียมในสังคมสมัยใหม่

ยิ่งตอนนี้โลกมีการความก้าวหน้าอยู่เสมอเวลา ศึกษาและทำการค้นพบว่ามนุษย์มีความซับซ้อนมากมายก่ายกอง ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามจำเป็นที่จะได้รับความเท่าเทียมกันสำหรับการยืนยันอัตลักษณ์ทางเพศ แล้วก็ที่สำคัญไม่สมควรใช้สมองในอดีตกาลมาเป็นตัววินิจฉัยหรือระบุสิทธิฐานรากของกรุ๊ปผู้มีความมากมายหลากหลายทางเพศ

รอบโลก ผู้คนถูกจู่โจมเพียงแต่เนื่องจากว่าผู้ที่พวกเขารัก แนวทางการที่พวกเขาแต่งตัว

หรือแม้กระทั้งเนื่องจากตัวตนของพวกเขารอบโลก ผู้คนถูกจู่โจมเพียงแต่เนื่องจากว่าผู้ที่พวกเขารัก กระบวนการที่พวกเขาแต่งตัว หรือแม้กระทั้งด้วยเหตุว่าตัวตนของพวกเขาในหลายๆประเทศ การเป็นเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล ทรานส์เจนเดอร์ หรืออินเทอร์เซ็กส์ซึ่งก็คือการใช้ชีวิตท่ามกลางการแบ่งแยก การแบ่งแยกที่ว่าอาจมีต้นสายปลายเหตุมาจากรสนิยมทางเพศความพอใจทางเพศที่มีต่อบุคคลอื่นอัตลักษณ์ทางเพศแนวทางนิยามตนเองที่ไม่นึกถึงเพศแต่กำเนิดการแสดงออกทางเพศ

ขั้นตอนการแสดงออกทางเพศผ่านการแต่งกาย

แนวทางการทำผม แปลงเพศ ถูกกฎหมาย หรือการเสริมสวย หรือลักษณะทางเพศดังเช่นว่า ของลับ โครโมโซม อวัยวะสืบพันธุ์ หรือระดับฮอร์โมนไม่ว่าจะเป็นการถูกล้อเลียนชื่อหรือโดนทำร้าย ไปจนกระทั่งโดนไม่ยอมรับไม่รับทำงานหรือเปล่าได้รับสิทธิการดูแลรักษาสุขภาพที่สมควร การเช็ดกปฏิบัติอย่างไม่ทัดเทียมมีให้มองเห็นจำนวนมากแล้วก็ร้ายแรงต่างๆนาๆ จนกระทั่งบางทีอาจถึงกับขนาดมีโอกาสเสี่ยงต่อชีวิตได้

ทำไมสิทธิของผู้มีความมากมายทางเพศก็เลยสำคัญ?

ทุกคนควรจะได้ทราบสึกยินดีในตัวตนแล้วก็ผู้ที่รัก รวมทั้งมีสิทธิที่จะแสดงออกอย่างเสรี โดยข้อ 19 ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่ชี้แจงสิทธิที่ทุกคนได้รับความคุ้มครองป้องกันเป็นครั้งแรกปกป้องรักษาความอิสระสำหรับเพื่อการแสดงออกของทุกคนการหยุดโฮโมโฟเบียรวมทั้งทรานส์โฟเบียสามารถช่วยคนได้ การคุกคามของพวกที่ต้านทานทำให้ฝูงคนที่ปรากฏตัวเป็น ตกอยู่ในการเสี่ยงต่อสภาพทางด้านร่างกายรวมทั้งจิตใจอย่างมาก เนื่องจากว่าทุกคนต้องมีสิทธิต่อชีวิต ความอิสระ แล้วก็ความปลอดภัย

การยินยอมรับฝูงชนแล้วก็รู้เรื่องตัวตนของพวกเขาจะลบล้างความจำกัดที่เกิดขึ้นจากการเหมารวมลักษณะทางเพศ การเหมารวมกลุ่มนี้ทำให้เกิดผลเสียในสังคม อีกทั้งระบุและก็จำกัดวิถีชีวิตของคน การกำจัดการเหมารวมจะปล่อยให้ทุกคนบรรลุสมรรถนะได้อย่างเต็มเปี่ยมโดยไม่มีข้อกำหนดอันแยกของสังคมฝูงชนโดยเขพาทรานส์เจนเดอร์และก็ผู้ที่แสดงออกทางเพศที่ไม่ตรงกับบรรทัดฐานของสังคมมักมีโอกาสเสี่ยงต่อการขัดขวางด้านเศรษฐกิจแล้วก็สังคม การต่อสู้เพื่อข้อบังคับที่เข้าถึงคนเยอะขึ้นโดยไม่นึกถึงรสนิยมทางเพศและก็อัตลักษณ์ทางเพศจะช่วยทำให้

คนกลุ่มนี้เข้าถึงสิทธิทางสุขภาพ การศึกษาเล่าเรียน ที่พักที่อาศัย

รวมทั้งการว่าจ้างมากเพิ่มขึ้นคนผ่านเพศหมายถึงผู้ที่มีเพศภาวะรวมทั้งเพศเกิดไม่สอดคล้องต้องกัน ตอนนี้ในทางการแพทย์ใช้ DSM-5 สำหรับในการวิเคราะห์ โดยใช้กฏเกณฑ์ของอาการเพียงแค่ 2 ใน 6 ข้อ โดยควรจะเป็นมาอย่างสม่ำเสมออย่างต่ำ 6 เดือน และก็ก่อเกิดความทุกข์ใจหรือมีความข้องใจจนกระทั่งจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการบริการเพื่อการข้ามเพศอีกทั้งชายที่อยากได้กลายเป็นหญิงแล้วก็หญิงที่ปรารถนากลายเป็นชาย

กรรมวิธีดูแลเพื่อความเคลื่อนไหวให้เป็นเพศตรงตามอัตลักษณ์ทางเพศ

ประกาศตัวเองต่อสังคมรับการวิเคราะห์จากจิตแพทย์ว่าเป็นโดยมิได้มีโรคหรือสภาวะแตกต่างจากปกติทางใจที่อาจมาด้วยอาการคล้ายคลึงกัน จนกระทั่งนำมาซึ่งความเข้าใจผิดยั้งการเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ในรายที่อายุยังน้อย เพื่อรอเวลาสำหรับการวิเคราะห์ให้กระจ่างก่อนที่จะชักจูงด้วยการดูแลและรักษาให้เป็นเพศที่ตรงกับจิตใจและก็ตัวตนของผู้ป่วยในตอนหลังเปลี่ยนร่างกายด้วยแนวทางต่างๆโดยมิได้ใช้ฮอร์โมนแล้วก็การผ่าตัด ดังเช่นว่า ชายผ่านเพศ เล่นกล้าม รัดอก หรือหญิงผ่านเพศ ใส่ผมปลอม แรเงาร่องอก ใส่ซิลิโคนเสริมข้างนอก ฯลฯ

วิเคราะห์ถูก ตรึกตรองใช้ฮอร์โมน การผ่าตัดตกแต่งบริเวณใบหน้า

ผ่าตัดทรวงอก และก็การผ่าตัดเปลี่ยนเพศในรายที่อยากรวมทั้งมีความพร้อมเพรียงแนวทางให้ฮอร์โมนเพื่อการข้ามเพศควรจะให้คำปรึกษาเรื่องภาวะเจริญพันธุ์ เรื่อง ธนาคารสเปิร์ม การแช่แข็งไข่ เพื่อจังหวะของการมีลูกของตัวเอง แม้มีข้อบังคับรองรับในอนาคต
กดการผลิตฮอร์โมนเพศเกิดตาม เริ่มใช้ตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยได้รับความยินยอมพร้อมใจจากผู้มีอิทธิพลดูแล

เพิ่มฮอร์โมนเพศใหม่ ให้เป็นเพศที่ตรงกับจิตใจ

มีมาตรการความปลอดภัย โดยคัดเลือกกรองรวมทั้งลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจจะมีการเกิดขึ้นจากการใช้ฮอร์โมน ใช้ฮอร์โมนในขนาดไม่สูงเหลือเกินแต่ว่าสำเร็จรวมทั้งตรวจติดตามระดับฮอร์โมนรวมทั้งเฝ้าระวังผลกระทบเป็นระยะตามมาตรฐาน
หลักเกณฑ์การผ่าตัดเพื่อการข้ามเพศสำหรับความหมายที่รู้เรื่องได้ง่ายสำหรับคนทั่วๆไป คือ การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์รวมทั้งฟังก์ชั่นแนวทางการทำงานของของลับเดิมไปยังเพศที่อยาก เพราะฉะนั้น ศัลยกรรมเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิง ก็เลยคือการผ่าตัดเพื่อสร้างอวัยวะเพศหญิง ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

การผลิตอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกแบบผู้หญิง

การผลิตช่องคลอดหรือช่องแพร่พันธุ์โดยปกติกระบวนการทำศัลยกรรมเปลี่ยนเพศชอบปฏิบัติเป็นขั้นตอนสุดท้ายของแนวทางการผ่านเพศ ซึ่งแนวทางผ่านเพศมีขั้นตอนต่างๆเริ่มจากระดับที่น้อยไปพบมากมาย อาทิเช่น การใช้ชีวิตในแบบเพศตรงข้าม การใช้ฮอร์โมนเพื่อการข้ามเพศ รวมทั้งวิธีการทำศัลยกรรมร่างกายส่วนอื่นที่มีความสลับซับซ้อนน้อยกว่า ฯลฯ

ศัลยกรรมเปลี่ยนเพศเป็นการผ่าตัดในจุดซ่อนเร้นอำพราง

มีจุดมุ่งหมายเพื่อเติมเต็มความจำเป็นด้านจิตใจเป็นหลัก แล้วก็เนื่องด้วยเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีความสลับซับซ้อน เมื่อปฏิบัติไปแล้วจะไม่สามารถที่จะทำให้กลับมาเป็นดังเดิมได้อีก แปลงเพศ ถูกกฎหมาย ด้วยเหตุดังกล่าวคนที่จะเข้ารับการผ่าตัดจำเป็นที่จะต้องผ่านหลักเกณฑ์ประเมินของชมรมคนผ่านเพศนานาประเทศเพื่อแน่ใจว่าเมื่อผ่าตัดไปแล้วจะสามารถดำเนินชีวิตในเพศที่อยากได้ได้ รวมทั้งลดช่องทางที่จะมีการตกลงใจบกพร่องสำหรับในการเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศ

การผ่าตัดศัลยกรรมเปลี่ยนเพศภาวะข้างนอกให้ตรงกับภาวะจิตใจ

ของผู้เจ็บป่วยที่อยากได้เข้ารับการผ่าตัด โดยมีอีกทั้งการผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิง และก็จากหญิงเป็นชาย แม้วิทยาการในขณะนี้จะเจริญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้กระนั้นการผ่าตัดเปลี่ยนเพศก็ยังคงเป็นขั้นตอนการที่มีความสลับซับซ้อน ผู้เจ็บป่วยไม่สามารถที่จะเปลี่ยนสภาพร่างกายไปเป็นเพศที่ตรงกันข้ามกับเพศเกิดของตนได้อย่างสมบูรณ์ และก็การผ่าตัดบางทีอาจมีผลต่อภาวะจิตใจ การทำงาน การเข้าสังคม และก็การใช้ชีวิตไปตลอดชาติของคนไข้ การเปลี่ยนเพศก็เลยเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่คนไข้ควรจะตกลงใจอย่างถี่ถ้วนภายใต้ดุลยพินิจของหมอ

ด้านการผ่าตัดศัลยกรรมเปลี่ยนเพศ

ได้รับการยินยอมรับในแวดวงแพทย์ แล้วก็เป็นที่พอใจในบรรดาคนเจ็บที่อยากได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นบุคคลผ่านเพศ ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีจำนวนสถิติผู้เจ็บป่วยเปลี่ยนเพศที่เผยแจ่มแจ้ง เหตุเพราะการศัลยกรรมเปลี่ยนเพศเป็นการรักษาหนทางที่มักทำในสถานพยาบาลเอกชน แม้กระนั้นโรงหมอมีชื่อเสียงชั้นหนึ่งในด้านการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมความสวยสดงดงามรวมทั้งการเปลี่ยนเพศ ได้เผยข้อมูลว่า สถิติของผู้แปลงเพศจากชายเป็นหญิง มีมากยิ่งกว่าคนที่เปลี่ยนเพศจากหญิงเป็นชาย อย่างไรก็แล้วแต่

ด้วยความก้าวหน้าด้านการแพทย์ที่ล้ำยุค

แปลงเพศ ถูกกฎหมาย

และก็ผู้เจ็บป่วยสามารถเข้าถึงการดูแลและรักษาหนทางได้มากขึ้น คนป่วยที่อยากเปลี่ยนเพศจากหญิงเป็นชายก็มีมากเพิ่มขึ้นเรื่อยด้วยเหมือนกันดังนี้ ในส่วนของแพทยที่ประชุมเมืองไทย ได้เจาะจงไว้ว่า การผ่าตัดศัลยกรรมเปลี่ยนเพศจำต้องปฏิบัติแก่คนที่มีข้อชี้ชัดเพียงแค่นั้นแล้วก็จำเป็นต้องทำตามกฎข้อบังคับแพทยที่ประชุมอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ราษฎรที่มีความปรารถนาผ่าตัดเปลี่ยนเพศ โดยผู้เข้ารับการเปลี่ยนเพศควรจะมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ถ้าหากแก่ตั้งแต่ 18 ปี แต่ว่ายังไม่ถึง 20 ปี

จำเป็นต้องได้รับความยินยอมพร้อมใจจากผู้ดูแล ถ้าเกิดละเมิดจะมีความผิดโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยกรรมวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนเพศแปลงชายให้เป็นหญิง หรือเปลี่ยนแปลงหญิงให้เป็นชาย หมอที่มีสิทธิทำการผ่าตัดศัลยกรรมเปลี่ยนเพศจะต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร หรือมีความรู้ความเข้าใจและก็ประสบการณ์สำหรับในการทำศัลยกรรมเปลี่ยนเพศ แล้วก็จำเป็นต้องได้รับ

การยืนยันจากแพทยที่ประชุมแล้วเท่านั้นส่วนเด็กแล้วก็วัยรุ่นอายุน้อยกว่า 18 ปี ที่เจอปัญหาสภาวะความรู้สึกไม่ถูกใจในเพศของตน ควรจะหาทางออกมาจากความทุกข์ใจภายใต้การดูแล ความเข้าอกรู้เรื่อง การให้กำลังใจจากครอบครัวรวมทั้งบุคคลสนิทสนม การให้คำปรึกษาจากบิดามารดาผู้ดูแล betflix99 หรือเข้ารับการบำบัดภายใต้การดูแลของหมอ เป็นต้นว่า การบำบัดแบบครอบครัว การบำบัดเชิงจิตวิทยารายตัว หรือการรับฮอร์โมนบำบัดรักษาอย่างเหมาะควรภายใต้ดุลยพินิจของหมอ